ข้อมูลเทศบาล
อารามสำนักสงฆ์สาขา ของ รตวนมหาวิหาร
ประวัติวัดฝายหิน
โบราณสถานและโบราณวัตถุพร้อมประวัติ
ลำดับเจ้าอาวาสวัดฝายหิน
๑. ครูบามารวิชัย (อดีต - พ.ศ. ๒๓๙๘)
๒. พระอภัยสารทะ (๒๓๙๙- ๒๔๕๗)
๓. พระปลัดคำซาว อินทนนฺโท (๒๔๕๘- ๒๔๙๓)
๔. พระอธิการศรีมูล ญาณวโร (๒๔๙๔- ๒๕๐๙)
๕. ครูบาแดง (๒๕๑๐- ๒๕๑๙)
๖. พระศรีธรรมบัณฑิต (๒๕๒๐- ๒๕๓๐)
๗. พระอธิการสิงห์แก้ว (๒๕๓๐- ๒๕๓๒)
๘. พระมหาทองรัตน์ รตนวณฺโณ (๒๕๓๒- ๒๕๓๕)
๙. พระครูใบฏีกาสุรัตน์ ฐานิสฺสโร (๒๕๓๕- ๒๕๓๘)
๑๐. พระมหา ดร. ไสว เทวปุญฺโญ ปธ.4, PhD. (PHILOSOPHY) (๒๕๓๙- ปัจจุบัน)
จำนวนภิกษุ-สามเณร
ปีพุทธศักราช ๒๕๔๗
ภิกษุจำนวน ๓๑ รูป
สามเณรจำนวน ๒๐ รูป
กิจกรรมของวัดที่มีต่อชุมชน
- ได้ฝึกพระภิกษุ สามเณร ให้เป็นนักเทศน์ นักปาฐกถาธรรม นักสวด และออกจาริกปฏิบัติธรรม
- ได้จัดให้มีกิจกรรม โดยอาราธนาพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิมาแสดงธรรม
- จัดให้มีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมค่ายธรรมจักรลีลาและการแข่งขันตอบปัญหา
- จัดงานตักบาตรเทโวร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกปี ในวันหลังจากออกพรรษา คือแรม ๑ ค่ำทุกปี
- จัดหนังสือธรรม ไว้ในห้องสมุดประจำอุทยานการศึกษาวัดฝายหิน เพื่อให้ภิกษุสามเณรได้ค้นคว้า
- มีการวนเวียนทุกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นงานประจำปีมีผู้มาร่วมประชุมพิธีทำบุญฟังเทศน์ประมาณ ๒๐๐ คน
- จัดตั้งกลุ่มโครงการตั้งกลุ่มพุทธมากะ กลุ่มหนุ่มสาว พร้อมทั้งแนะนำการดำรงตนให้ถูกต้องตามสมบัติของอุบาสก-อุบาสิกา
- ให้ที่พักอาศัยแก่พระภิกษุสามเณรที่มาศึกษาในเขตจังหวัดเชียงใหม่
- ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ปรับปรุงธรรมสถานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอบรมและสอนวิธีการปฏิบัติกรรมฐานของสำนักต่างๆและได้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมนานาชาติ ซึ่งได้ทำการเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี ๒๕๔๔
- ร่วมกับคณะกรรมการการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทางวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ระบบ เอฟ. เอ็ม. ความถี่ ๙๖ เมกเฮิรตซ์ กำลังส่ง ๓๐ วัตต์
- สนับสนุนกลุ่มแม่บ้านในการรวมตัวกันทำอาชีพเสริมโดยสนับสนุนพื้นที่ในการทำการ
- ให้การสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษาโดยอนุเคราะห์ให้ยืมอุปกรณ์ต่างๆแก่นักศึกษา
ความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อวัดฝายหิน
ข้อมูลท่องเที่ยวในตำบลสุเทพ
วัดฝายหิน
- วันที่ 25 ตุลาคม 2554
- อ่าน 4,201 ครั้ง

วัดฝายหิน
สถานที่ตั้งและเนื้อที่ของวัด
วัดฝายหิน เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ที่บ้านเชิงดอย เลขที่ ๖๗ หมู่ที่ ๑ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕๐๒๐๐ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ ๑๗ ไร่ ๑ งาน ๓๖ ตารางวาเศษ ตำแหน่งที่ดิน ๑๓ ระวาง ๓ฏ เลขที่ดิน ๕๔ หน้าสำรวจ ๕๕๓๒ ตำบลสุเทพ ตามโฉนดที่ดิน เลขที่ ๕๔๘๙๙ เล่มที่ ๕๔๙ หน้า ๙๙ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ออก ณ วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๙
พื้นที่พุทธสถานติดกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้านทิศตะวันออก
นามเดิมอารามสำนักสงฆ์สาขา ของ รตวนมหาวิหาร
ประวัติวัดฝายหิน
วัดฝายหินเป็นวัดโบราณ เคยเป็นที่สถิตของพระอภัยสารทะ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่รูปแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ และปฐมสังฆราชาแห่งล้านนาไทย มีพื้นที่ มีพื้นที่ติดต่อกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้านทิศตะวันตก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับวัดฝายหินเข้าอยู่ในความอุปถัมภ์ของมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นต้นมาและได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมในการพัฒนาวัดฝายหินมาโดยตลอด นอกจากนี้ วัดฝายหิน ยังเป็นศาสนาสถาน ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ใช้ในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ของคณาจารย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา และพุทธศาสนิกชนทั่วไป เช่นการจัดงานทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬบูชาและวันเข้าพรรษาเป็นต้น
วัดฝายหิน สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๖ ได้รับพระราชทานวิสุง-คามสีมา เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร และได้ทำการประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๐
การสร้างวัด
วัดฝายหิน นับแต่โบราณมา (ในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช พ.ศ.๑๙๘๕-๒๐๓๑) มีฐานะเป็นเพียงอารามสำนักสงฆ์สาขา ของ รตวนมหาวิหาร (วัดป่าแดงหลวง เชียงใหม่) ซึ่งเป็นฝ่ายอรัญญวาสี อยู่ทางทิศใต้ของอารามฝายหินไปประมาณ ๑ กิโลเมตร รตวนมหาวิหาร ในครั้งนั้นเป็นศูนย์กลางการศึกษาภาษาบาลีและพระไตรปิฎก ของคณะสงฆ์ลัทธิสิงหลใหม่ คือ ฝ่ายป่าแดง ดังปรากฏในตำนานมูลศาสนาว่า ในครั้งนั้นมีพระมหาญาณคัมภีร์ ชาวนครพิงค์เชียงใหม่ เป็นประธานสงฆ์
การศึกษา
รตวนมหาวิหารในยุคนั้น มีพระภิกษุชาวต่างประเทศเข้ามาศึกษาอบรมมากมาย เช่นพระภิกษุจาก ศรีลังกา เชียงรุ้ง เชียงตุง หงสาวดี ล้านช้าง เวียดนาม กัมพูชา และภิกษุจากหัวเมืองต่างๆ เช่น เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง
สถานะของวัด
วัดฝายหิน วัดช่างเคี่ยน วัดโป่งน้อย วัดตโปตาราม (ร่ำเปิง) วัดเจ็ดยอด วัดป่ากล้วย วัดโพธิสุทธิ์ วัดหมู่บุ่น เป็นบริวารของวัดป่าแดงหลวง และเป็นฝ่ายอรัญญวาสีด้วยกัน
ประวัติความเป็นมา
ประเทศล้านนา มีนครพิงค์เชียงใหม่เป็นราชธานี มาตั้งแต่ พ.ศ. ๑๘๔๐ โดยมี พญามังรายหลวงเจ้า เป็นปฐมกษัตริย์ สืบราชสมบัติกันต่อๆ มาหลายรัชกาล จนถึง พ.ศ. ๒๑๐๑ ก็ตกเป็นอาณานิคมของประเทศพม่า ครั้นต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๗ พระเจ้ากรุงธนบุรี หรือพระเจ้าตากสิน พร้อมทั้ง พญาจ่าบ้านบุญมา (พญามังรายวิเชียรปราการ กำแพงเพชร) ได้นำกองทัพไทยบดขยี้กองโจรพม่ารามัญ ไทยใหญ่ จนถึงขั้นประจัญบาน ดาบต่อดาบ หมัดต่อหมัด รบแบบสายฟ้าแลบห้าวหาญ พม่ารามัญเอาชีวิตมาสังเวยครั้งนั้นไม่ทราบจำนวน ที่เหลือก็หนีออกไปจนหมดสิ้นอารามฝายหิน เป็นอรัญญวาสี สาขาของ รตวนมหาวิหาร คือวัดป่าแดงหลวง เชียงใหม่ ตั้งแต่รัชกาลของพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ. ๑๙๘๕-๒๐๓๑ เป็นต้นมา นับเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ อารามฝายหิน เป็นที่รู้จักทั่วไป สมัยรัชกาลที่ ๔ โดยมีครูบาหลวงมารวิชัย เป็นเจ้าอาราม และในสมัยรัชกาลที่ ๕ ในนาม "ครูบาฝายหิน รู้คำนกคำหนู" ซึ่งต่อมาได้รับสมณศักดิ์เป็น "พระอภัยสารทะ สังฆปาโมกข์" เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๙ พระเจ้ากาวิละ พร้อมไพร่ฟ้าข้าบริวาร อพยพจากเวียงป่าซาง มาสถิตย์อยู่ในเวียงร้าง คือเวียงเชียงใหม่ พระองค์ได้ปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งปรักหักพังให้มีสภาพปกติ เช่น ย้ายพระเจ้าแข้งคม จากวัดร้างในป่าตาลนอกกำแพงด้านแจ่งกู่เฮือง มาประดิษฐานในวิหารวัดศรีเกิด เมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๓ เป็นต้น สมัยรัชกาลที่ ๔ ปรากฏว่า มีพระภิกษุนามว่า ครูบาหลวงมารวิชัย เป็นพระเถระทรงความรู้แตกฉานภาษาบาลี ท่านเป็นเจ้าอารามฝายหิน ผลงานของท่านเท่าที่ได้สำรวจมาแล้ว มีหลายเรื่องใหญ่ ซึ่งท่านเป็นผู้จารลงในใบลาน เช่น มหาวิบากหลวง หนาถึง ๑๒ ผูก ฯลฯ และชิ้นสำคัญคือ ตำราเรียนภาษาบาลี เรียก "สัททพินทุ" คัมภีร์นี้ ท่านเจ้าคุณ พระสุวิมลธรรมาจารย์ คณะสลัก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษธ์กรุงเทพฯ ได้ยืมไปแปลเป็นภาษาไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ ตั้งแต่สมัยครูบาหลวงมารวิชัยเป็นเจ้าอาราม วัดฝายหินจึงค่อยๆ เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง จนกระทั่งได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ต้องมีการอพยพผู้คนออกไปจากพื้นที่ จึงทำให้วัดฝายหินจึงอยู่ในความอุปถัมภ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน
โบราณสถานและโบราณวัตถุพร้อมประวัติ
โบราณวัตถุที่มีความสำคัญของวัดฝายหินได้แก่ รูปปั้นของครูบามารวิชัย ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาแก่ผู้ที่มาวัด ทุกวันที่ 21 เมษายนของทุกปี จะมีการจัดให้สรงน้ำรูปปั้น ด้วยความเชื่อว่าเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต และในวันสงกรานต์ก็จะนำรูปปั้นของครูบามารวิชัยเข้าขบวนสรงน้ำพระ เพื่อให้ประชานชนได้สรงน้ำพระ ซึ่งจัดโดยประชาชนบริเวณวัดฝายหิน
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปไม้สักซึ่งหล่อด้วยทองคำอยู่คู่วัดมานานแล้วแม้แต่ท่านเจ้าอาวาสเองก็ยังไม่ทราบว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ส่วนโบราณสถานอีแห่งหนึ่งที่อยู่ในวัดที่เป็นที่สักการบูชามาก คือ เจดีย์บรรจุอัฐิพระอภัยสารทะ สังฆปาโมกข์(ครูบาฝายหิน) ปฐมสังฆราชของล้านนาไทย เป็นพระมหาเถระผู้ทรงความรู้ในภาษาบาลี เชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกและการปฏิบัติทั้งในฝ่ายสมถกัมมัฎฐาน เป็นเจ้าอาวาสวัดฝายหินองค์ที่ 2 เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่
ลำดับเจ้าอาวาสวัดฝายหิน
๑. ครูบามารวิชัย (อดีต - พ.ศ. ๒๓๙๘)
๒. พระอภัยสารทะ (๒๓๙๙- ๒๔๕๗)
๓. พระปลัดคำซาว อินทนนฺโท (๒๔๕๘- ๒๔๙๓)
๔. พระอธิการศรีมูล ญาณวโร (๒๔๙๔- ๒๕๐๙)
๕. ครูบาแดง (๒๕๑๐- ๒๕๑๙)
๖. พระศรีธรรมบัณฑิต (๒๕๒๐- ๒๕๓๐)
๗. พระอธิการสิงห์แก้ว (๒๕๓๐- ๒๕๓๒)
๘. พระมหาทองรัตน์ รตนวณฺโณ (๒๕๓๒- ๒๕๓๕)
๙. พระครูใบฏีกาสุรัตน์ ฐานิสฺสโร (๒๕๓๕- ๒๕๓๘)
๑๐. พระมหา ดร. ไสว เทวปุญฺโญ ปธ.4, PhD. (PHILOSOPHY) (๒๕๓๙- ปัจจุบัน)
จำนวนภิกษุ-สามเณร
ปีพุทธศักราช ๒๕๔๗
ภิกษุจำนวน ๓๑ รูป
สามเณรจำนวน ๒๐ รูป
กิจกรรมของวัดที่มีต่อชุมชน
- ได้ฝึกพระภิกษุ สามเณร ให้เป็นนักเทศน์ นักปาฐกถาธรรม นักสวด และออกจาริกปฏิบัติธรรม
- ได้จัดให้มีกิจกรรม โดยอาราธนาพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิมาแสดงธรรม
- จัดให้มีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมค่ายธรรมจักรลีลาและการแข่งขันตอบปัญหา
- จัดงานตักบาตรเทโวร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกปี ในวันหลังจากออกพรรษา คือแรม ๑ ค่ำทุกปี
- จัดหนังสือธรรม ไว้ในห้องสมุดประจำอุทยานการศึกษาวัดฝายหิน เพื่อให้ภิกษุสามเณรได้ค้นคว้า
- มีการวนเวียนทุกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นงานประจำปีมีผู้มาร่วมประชุมพิธีทำบุญฟังเทศน์ประมาณ ๒๐๐ คน
- จัดตั้งกลุ่มโครงการตั้งกลุ่มพุทธมากะ กลุ่มหนุ่มสาว พร้อมทั้งแนะนำการดำรงตนให้ถูกต้องตามสมบัติของอุบาสก-อุบาสิกา
- ให้ที่พักอาศัยแก่พระภิกษุสามเณรที่มาศึกษาในเขตจังหวัดเชียงใหม่
- ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ปรับปรุงธรรมสถานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอบรมและสอนวิธีการปฏิบัติกรรมฐานของสำนักต่างๆและได้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมนานาชาติ ซึ่งได้ทำการเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี ๒๕๔๔
- ร่วมกับคณะกรรมการการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทางวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ระบบ เอฟ. เอ็ม. ความถี่ ๙๖ เมกเฮิรตซ์ กำลังส่ง ๓๐ วัตต์
- สนับสนุนกลุ่มแม่บ้านในการรวมตัวกันทำอาชีพเสริมโดยสนับสนุนพื้นที่ในการทำการ
- ให้การสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษาโดยอนุเคราะห์ให้ยืมอุปกรณ์ต่างๆแก่นักศึกษา
ความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อวัดฝายหิน
วัดฝายหินเป็นวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับมหาวิทยาลัยและเป็นวัดที่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุดมีทางที่สามารถไปวัดฝายหินได้ทั้งจากในมหาวิทยาลัยและทางด้านนอกของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีบทบาทกับมหาวิทยาลัยในหลายด้าน โดยเฉพาะงานใหญ่อย่างการตักบาตรเทโว
จากการที่ข้าพเจ้าได้ไป ณ วัดฝายหินนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับความสงบ และร่มเย็นตั้งแต่ได้ก้าวเข้าไปในวัด จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้าไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัด ทำให้ได้รับความสุขใจกลับมา ปกติแล้วข้าพเจ้าไม่ค่อยได้มาวัดสักเท่าไหร่แม้ว่าจะอยู่ใกล้ก็ตาม แต่เมื่อข้าพเจ้าได้ไป ยังวัดฝายหินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าเคยไปวัดฝายหินเป็นจำนวนนับครั้งได้ ๓ ครั้งรวมครั้งนี้ด้วย บรรยากาศก็ยังคงเดิมด้วยความสงบและร่มรื่นเช่นเดิม ที่วัดมีสัตว์หลายอย่างที่อยู่ด้วยกัน เช่น สุนัข แมว ไก่ นก ซึ่งอยู่ด้วยกันได้อย่างเป็นมิตรกันทำให้นึกถึงเขตอภัยทาน และน่าเป็นตัวอย่างกับมนุษย์ที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันแต่กับยังต่อสู่ ฆ่า ฟันกันอยู่ อีกทั้งที่บริเวณวัดก็มีโบราณสถานพระพุทธรูปที่ควรแก่การสักการะด้วย และพระภิกษุสามเณรก็ให้ข้อมูลด้วยความเมตตา
วัดเป็นที่เพิ่งทางใจยามใดที่ได้ทำบุญแล้วรู้สึกเป็นสุข ถ้ามีโอกาสข้าพเจ้าก็จะไปทำบุญที่วัดมากขึ้น